ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา เทคโนโลยี RFID ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ประเทศและภูมิภาคที่พัฒนาแล้วได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในหลายสาขา และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและมาตรฐานการใช้งานไปในระดับสากลอย่างแข็งขัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี RFID ได้เข้าสู่ขั้นตอนการใช้งานเชิงพาณิชย์ด้วยการพัฒนาวงจรรวมขนาดใหญ่ การสื่อสารเครือข่าย ความปลอดภัยของข้อมูล และเทคโนโลยีอื่นๆ ด้วยคุณสมบัติการจดจำวัตถุเคลื่อนที่ความเร็วสูง การจดจำหลายเป้าหมาย และการจดจำแบบไม่ต้องสัมผัส เทคโนโลยี RFID จึงมีศักยภาพในการพัฒนาและพื้นที่การใช้งานที่ยอดเยี่ยม และถือเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีแนวโน้มมากที่สุดในศตวรรษที่ 21
ประเทศจีนได้นำเทคโนโลยี RFID ไปประยุกต์ใช้ในหลายๆ ด้าน เช่น การระบุยานพาหนะทางรถไฟ การจัดการบัตรประจำตัวและตั๋ว การระบุสัตว์ การจัดการอุปกรณ์พิเศษและสินค้าอันตราย การขนส่งสาธารณะ และการจัดการกระบวนการผลิต ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เทคโนโลยี RFID จะยังคงพัฒนาอย่างรวดเร็วต่อไป โดยจะมีความก้าวหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นในด้านแท็กอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องอ่าน ซอฟต์แวร์บูรณาการระบบ ระบบบริการสาธารณะ และการกำหนดมาตรฐาน ด้วยความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีหลัก ประเภทของผลิตภัณฑ์ RFID จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และบริการมูลค่าเพิ่มที่ได้จากการใช้งานจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างสังคมที่กลมกลืน จีนจำเป็นต้องเสริมสร้างการบริหารจัดการอย่างเร่งด่วนผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี RFID ในด้านความปลอดภัยสาธารณะ รวมไปถึงการแพทย์และสุขภาพ ความปลอดภัยของอาหาร การจัดการสินค้าอันตราย ความปลอดภัยของเหมืองถ่านหิน และอื่นๆ
ปัจจุบัน RFID ได้ถูกนำไปใช้ในการรวบรวม ประมวลผล และใช้งานข้อมูลยา โดยการสร้างแพลตฟอร์มการติดตาม RFID สำหรับห่วงโซ่อุปทานการผลิตและการตลาดยา จะทำให้สามารถสร้างระบบการติดตามแบบไดนามิกและการดูแลความปลอดภัยที่ตรวจสอบได้ ซึ่งสามารถรับประกันความถูกต้องของยา ความน่าเชื่อถือของคุณภาพ และการตรวจสอบย้อนกลับของการจัดการความรับผิดชอบได้

เวลาโพสต์: 07-11-2024