เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม Apple ประกาศอย่างกะทันหันว่าจะเปิดให้นักพัฒนาใช้ชิป NFC ของ iPhone และอนุญาตให้นักพัฒนาใช้ส่วนประกอบความปลอดภัยภายในของโทรศัพท์เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไร้สัมผัสในแอปของตนเอง กล่าวโดยสรุปคือ ในอนาคต ผู้ใช้ iPhone จะสามารถใช้โทรศัพท์ของตนเพื่อใช้งานฟังก์ชันต่างๆ เช่น กุญแจรถ ระบบควบคุมการเข้า-ออก และระบบล็อกประตูอัจฉริยะ เช่นเดียวกับผู้ใช้ Android ซึ่งหมายความว่า "สิทธิพิเศษ" ของ Apple Pay และ Apple Wallet จะค่อยๆ หายไป แม้ว่า Apple จะเพิ่งเพิ่มฟังก์ชัน NFC ให้กับ iPhone 6 ในช่วงต้นปี 2014 แต่มีเพียง Apple Pay และ Apple Wallet เท่านั้น และไม่ได้เปิดใช้งาน NFC อย่างสมบูรณ์ ในเรื่องนี้ Apple ยังคงตามหลัง Android อยู่มาก เพราะ Android นั้นมีฟังก์ชัน NFC มากมาย เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าถึงกุญแจรถ ระบบควบคุมการเข้า-ออก และระบบล็อกประตูอัจฉริยะ และฟังก์ชันอื่นๆ Apple ประกาศว่าตั้งแต่ iOS 18.1 เป็นต้นไป นักพัฒนาจะสามารถนำเสนอการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไร้สัมผัสด้วย NFC ในแอป iPhone ของตนเองได้ โดยใช้ Security Element (SE) ภายใน iPhone ซึ่งแยกจาก Apple Pay และ Apple Wallet ด้วย NFC และ SE api ใหม่ นักพัฒนาจะสามารถให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไร้สัมผัสภายในแอป ซึ่งสามารถนำไปใช้กับการขนส่งสาธารณะแบบวงปิด รหัสองค์กร รหัสนักศึกษา กุญแจบ้าน กุญแจโรงแรม แต้มร้านค้าและบัตรสะสมคะแนน แม้แต่ตั๋วเข้าร่วมงาน และในอนาคต เอกสารแสดงตัวตนก็สามารถใช้ได้